จากการไม่ตอกเสาเข็มฐานรากทั้งหมดของ โรงแยกก๊าซใหม่ ปตท. เสี่ยงทรุดพัง จนอาจการระเบิดลุกลามรุนแรง ของคลังก๊าซ แอลพีจีขนาดใหญ่
ได้มีความพยายาม สื่อไปยังหลายกลุ่มหลายส่วนของประเทศนี้แล้ว ทั้งภาครัฐบาล ขบวนการศาลปกครอง กรรมาธิการต่างๆ ทั้งสภาผู้แทน และวุฒิสภา สส.ระยอง สว.รสนา สื่อมวลชนไทยเกือบทั้งหมด องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมผู้ฟ้องคดีมาบตาพุด (เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก และสมาคมต่อต้านโลกร้อน) หอการค้าต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ บริษัทเงินทุนที่เกี่ยวข้องการการลงทุน ทั้งหมดรับรู้เรื่องความเสี่ยงต่อมหันตภัย ของคนมาบตาพุดแล้ว ... ทุกฝ่ายเย็นชาเฉยชา ซึ่งถึงวันนี้ ไม่เห็นความกระตือรืนร้น จากฝ่ายใด นอกจากการตอบจดหมายของ เจโทร(กรุงเทพ) แม้จะมีนัยสำคัญที่บอกว่า เขามีความสำเหนียก เรื่องความปลอดภัยและความเสี่ยงต่อหายนะภัยในระดับที่ดี ปัญหาความเสี่ยงต่อหายนะภัย ที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ แต่มาจากความมักง่าย ของภาคอุตสาหกรรม ที่ทุกภาคส่วนของประเทศนี้ เฉยเมยที่จะใส่ใจ รวมทั้งส่วนของผู้นำองค์กรและชุมชนต่างๆในมาบตาพุดฯ
ถึงวันนี้ ... คนมาบตาพุด คงหลีกหนีความเสี่ยงของหายนะภัยที่อาจจะเกิดไม่ได้แล้ว ไม่ได้ทวงถามความรับผิดชอบหรือใส่ใจจากใคร – รอเกิดเหตุสลดเพราะการรั้งรอ ของผู้ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารแล้ว บาปคงติดค้างอยู่ในใจ พวกท่านตลอดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น