วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ข้อมูลอ้างอิง เชิงประจักษ์ ที่ทำไม ต้องตรวจสอบเสริมสร้าง โรงงานจำนวนมาก ของ ปตท. ในมาบตาพุด ที่ไม่ตอกเสาเข็มฐานรากทั้งหมด

ตัวอย่างเชิงประจักษ์ เรื่องความไม่แข็งแรง สร้างความเดือดร้อน สร้างผลกระทบรุนแรง กับผู้คนประชาชนชาวบ้าน ร้านตลาด เหตุก๊าซคลอรีนรั่ว จากถังคลอรีนล้มพัง เพราะฐานถังแข็งแรงไม่เพียงพอ

อุบัติภัยสารเคมี จากการล้มพังของถังคลอรีน มีผู้ป่วยสูงถึง 1,434 คน



ทั้งนี้ จากการประชุม คสช.เมื่อ 18 มิ.ย.53 คสช.รับทราบรายงานการศึกษาสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุการณ์อุบัติภัยสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์รั่วไหลออกจากถังกักเก็บของบริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมิคัลล์(ประเทศไทย)จำกัด ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราชตะวันออก(มาบตาพุด) จ.ระยอง ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตสารเคมีหลายชนิด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.53 ส่งผลให้มีผู้ต้องเข้ารับการรักษาใน รพ.มาบตาพุด ถึง 1,434 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต.

ข้อมูลเชิงประจักษ์ ว่า การชี้แจงของ ปตท. ว่า โครงการต่างๆ มีการทดสอบดินแล้ว ว่า แข็งแรงกว่า โรงงานติดกัน 3-7 เท่า จึงไม่จำเป็นต้องตอกเสาเข็ม และไม่ได้ออกแบบพิเศษ หรือมีเทคนิคก่อสร้างพิเศษอย่างไร กรณีน้ำท่วม โรงแยกก๊าซ ปตท. ก่อนที่ ปตท. จะชี้แจงชาวบ้าน ว่าทุกอย่างแข็งแรงดี เพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้น น่าจะเป็น คำเตือน! ของฟ้าดิน แล้วว่า โรงงานที่อยู่บนพื้นที่ร่องรับน้ำขนาดใหญ่ ดินแข็งแรงกว่า โรงงานอื่นๆ จนไม่จำเป็นต้องตอกเสาเข็ม


สภาพหน้าโรงแยกก๊าซ ปตท. มาบตาพุด บ่ายแก่ๆ วันจันทร์ ฝนตกหนัก พายุลมแรง น้ำท่วม จนรถจมน้ำ


รายงานการทดสอบดิน ของโรงแยกก๊าซใหม่ ของ ปตท. และการเปรียบเทียบกับโรงงานอื่นๆ




ตัวอย่างเชิงประจักษ์ ว่าคำชี้แจงแจ้งเท็จ-ปกปิดข้อมูล การสร้างมหันตภัยใหญ่หลวงของภาคอุตสาหกรรมไม่ใช่เพิ่งเกิด และเกิดบ่อยๆ เช่นกรณี โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และ แท่นเจาะน้ำมัน ปตท.สผ. รั่ว-ระเบิด ก้อเป็นแบบนั้น - ชัดเจนถึงความประมาทมักง่าย ไร้ความรับผิดชอบ โดยอ่านจากข้อตำหนิต่างๆ จาก ประเทศที่ได้รับผลกระทบ แม้กรณีนี้ คนไทย ไม่ได้การรับรู้ เพราะสื่อมวลชนไทย ปกปิดข่าวกันหมด

เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บริษัทพลังงานไฟฟ้าโตเกียว หรือ TEPCO ได้ออกมายอมรับว่า ทางบริษัทได้แจ้งรายงานเท็จเกี่ยวกับการตรวจสอบและผลการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิม่า ไดอิจิ มาตลอด 40 ปี ทั้งที่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตรวจสอบอุปกรณ์ภายในโรงไฟฟ้าอย่างละเอียดเลย

เมื่อบริษัทได้รับข้อมูลที่บ่งชี้ความไม่แข็งแรงของบ่อหลังเกิดเหตุแล้วก็ไม่ได้ส่งข้อมูลนั้นต่อให้กับผู้กำกับดูแล (Finding 97) พฤติกรรมเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัททำตัวแย่มาก
(การก่อสร้างต่ำกว่ามาตรฐาน และการปกปิดข้อมูลชี้แจงแจ้งเท็จ)

อินโดฯรีดปตท.สผ. 3.5หมื่นล้าน ชดใช้น้ำมั่นรั่ว – ไทยรัฐออนไลน์ 27 พ.ค.2554

อินโดนีเซียเล็งเรียกเงิน ราว 35,200 ล้านบาท ชดเชยความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม เหตุแท่นขุดเจาะน้ำมันในเครือปตท.สผ.ของไทย เกิดไฟไหม้และระเบิด นอกชายฝั่งออสเตรเลียปีที่แล้ว จนน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลติมอร์ถึงน่านน้ำอินโด


เหตุการณ์นี้ เกิดห่างเพียง 2 วัน - หลังจาก ศาลปกครองระยอง ไม่รับไต่สวนตรวจสอบ กับการฟ้องกรณี ปตท. ไม่ตอกเสาเข็มฐานรากโรงแยกก๊าซใหม่ 2 แห่ง และโรงงาน ปตท. จำนวนมากในมาบตาพุด

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000127992

เหตุก๊าซระเบิด จากท่อแตกควบคุมยาก - เหตุระเบิดเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี 9 กันยายน 2553 ทำให้เมืองซานบรูโน ซึ่งอยู่ใกล้เมืองซานฟรานซิสโกกลายเป็นทะเลเพลิง สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนที่บ้านเรือนเสียหายในพริบตา


ลูกไฟขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นจากพื้นดินในจุดที่ท่อก๊าซแตก และแผ่ขยายไปเผาผลาญอาคารบ้านเรือนทั่วทุกทิศทาง ประชาชนหลายร้อยคนต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอด บางคนร้องห่มร้องไห้ ขณะที่บางคนยังพอมีสติเก็บภาพความโกลาหลไว้ในโทรศัพท์มือถือ

เหตุระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บ 52 คน โดยมี 3 รายที่ถูกไฟไหม้ผิวหนังถึงระดับ 3 (ไหม้ถึงชั้นหนังแท้)

ทะเลเพลิงแผ่ขยายครอบคลุมพื้นที่ราว 4 เฮกตาร์ เผาผลาญบ้านเรือนวอด 37 หลัง และอีก 7 หลังเสียหายอย่างหนัก ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถดับไฟได้ทุกจุดแล้วในคืนวันศุกร์ (10)


ข้อมูลเชิงประจักษ์ ว่า จะหากลุ่มไหนส่วนใด ใส่ใจเรื่องความเสี่ยงของผู้คนประชาชนได้ยาก ที่ทำไม ขบวนการศาลปกครอง ภาครัฐ สื่อมวลชน ภาคประชาชน ภาคสิ่งแวดล้อม ละเลยเฉยชากันไปหมด

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย รอคำสั่งศาล ให้ตรวจสอบ กรณี ปตท. ไม่ตอกเสาเข็มฐานราก โรงแยกก๊าซใหม่ และโรงงานอันตราย ของ ปตท. จำนวนมากในมาบตาพุด




กรรมการองค์การอิสระ ด้านสิ่งแวดล้อม-สุขภาพ จะทำอะไร เพื่อประชาชน


"ผู้คนประชาชน จะหวังอะไรได้ จากผู้คนเหล่านี้ ขนาดตัวแทนประชาชน ยังไม่ขยับทำอะไร ให้เกิดผล ..." - กรรมการ จะชั่วคราวหรือถาวร คนไหนที่จะทำอะไรเพื่อผู้คนประชาชน หรือแค่คนที่กลุ่มทุนอุตสาหกรรม ค้ำจุน ไม่ต่างกับ สื่อมวลชนไทยสายสิ่งแวดล้อมหรือสมาคม-เครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นแต่การสร้างภาพ ให้มัวเมากับสีแสงกระดาษ สีเขียว ไม่ได้ทำอะไร ให้บังเกิดผล เป็นรูปธรรม แต่กลับสร้างความรู้สึกให้สังคมว่า การห่วงใยสิ่งแวดล้อม กำลังทำร้ายทำลาย สภาวะเศรษฐกิจ ของชาติ

ตัวแทนประชาชน ... ภาคประชาชน - บ่วงแหที่แก้ไม่หลุด

ของคนที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อน


เมื่อหลายวันก่อน กรอบข่าว หน้า 5 ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ - สอดแทรกความเห็น ของความเป็นตัวแทนภาคประชาชน ที่อ้างถึงความสนใจใส่ใจปัญหาของมาบตาพุด อ้างว่าเป็น ตัวแทนของผู้คนประชาชน ที่มาบตาพุด โดยมีลักษณะข่าวแบบ " ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้" ไม่ได้ให้การเชื่อมั่นอย่างใดกับสื่อมวลชน และคนอาชีพสื่อ ที่มีบทบาทไม่ต่างกับนักการเมือง นายทุน ที่จ้องแต่จะแสวงหาผลประโยชน์ มีหลายๆ คน บอกว่า ยังดีที่มีสื่อน้ำดี อยู่ ทั้งที่จริงๆแล้ว ไม่มี ... ปัญหาการระงับโครงการในมาบตาพุด เป็นตัวอย่าง ของบ่วงแหที่แก้ไม่หลุด โดยอ้างว่า มีภาคประชาชนเข้าร่วม และการถือกำเนิดของ คกก. 4 ฝ่าย ก็มาจากข้อเรียกร้อง ของภาคประชาชนเอง
ภาคประชาชน ของ คกก.4 ฝ่าย กรรมการประกอบด้วย นายชูชัย ศุภวงศ์ นางเรณู เวชรัชต์พิมล นายสุทธิ อัชฌาศัย นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ

เป็นสื่อเดียว ที่พยายามสร้างความถูกต้องให้สังคม แต่ถ้ายังมีความน่าเคลือบแคลงน่าสงสัยแล้วนั้น - ที่ว่าถูกต้องจะถูกแท้แน่จริงแบบที่พูดหรือไม่ เพราะปัญหาบ้านเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสมประโยชน์ ... ของบางคน ที่เอาธรรมเอาความดี ไปชักชวนคนดี มาเป็นเครื่องมือ เพื่อเข้าถึงประโยชน์ฯ

รู้เรื่อง ที่ประชาชนสาธารณะจำนวนมากจะอันตรายรุนแรง ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อาจกระทบรุนแรงกับประเทศชาติ ... แต่กลับไม่นำพาใส่ใจ อ้างหน้าตาเฉยว่าไม่ใช่หน้าที่ของสื่อมวลชน ฯ - แบบนี้หรือคือ สื่อเอาธรรมนำหน้ากล้าเสนอความจริง ...

ยื่นหนังสือร้องเรียน เรื่องโรงแยกก๊าซใหม่ ปตท. เสี่ยงก่อหายนะภัย กับ นายกอภิสิทธิ์ อีกครั้ง 20 พ.ย. 53


แม้อ้างว่าได้รับการอนุมัติก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก่อสร้างไม่แข็งแรง-ไม่ตรงกับการออกแบบ ทั้งที่ทุกหน่วยงานภาครัฐรับรู้ แต่คงจะดันทุรังไม่ใส่ใจ โดยมีชีวิตของผู้คนประชาชนจำนวนมากเป็นเดิมพันเพราะโรงแยกก๊าซ ปตท. มีคลังก๊าซแอลพีจีขนาด 4,200 คันรถ ทรุดพังไฟไหม้ระเบิดลุกลามควบคุมไม่ได้ อะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตผู้คนประชาชน และประเทศไทย

การเร่งรัดจัดหาเครื่องมือ-สัญญาณเตือนภัย-แนวกันชน แก้ปัญหาปลายเหตุ ระงับเหตุไม่ได้


จดหมายตอบจาก เจโทร(กรุงเทพ) เรื่องโรงแยกก๊าซ ปตท. เสี่ยง

Letter to JETRO (BANGKOK) and His Reply

ประธานเจโทร กรุงเทพ ใช้เวลาเพียง 2 วัน ในการเร่งรัดตอบจดหมาย ทำไมคนญี่ปุ่นให้ความสนใจ แต่ทำไมคนไทย พากันเฉยชานิ่งเฉยกันหมด ... ฯ

ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม นำหอการค้าทั้งในและต่างประเทศออกมาประโคมข่าว เพื่อเร่งรัด ดันทุรังโครงการเสี่ยง ว่าถ้าล่าช้าจะมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจการเงิน จดหมายที่นำเสนอข้อมูลความเสี่ยงของหายนะภัย จากความมักง่ายของภาคอุตสาหกรรม นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ถึงเวลานี้ คงได้รับรู้กันหมดแล้ว ว่าคนมมาบตาพุด โรงงานต่างๆในมาบตาพุด จะได้รับผลกระทบอย่างไร ถึงเวลาแล้ว ที่การขอให้มีการตรวจสอบ-ติดตาม ออกมาจากปากของนักลงทุนต่างๆ หรือยังจะดันทุรังกันต่อก้อเป็นสิทธิ์ ที่จะทำ แต่จดหมายตอบกับ จากเจโทร ไม่มีความดันทุรัง ดังกล่าว

" หวังอย่างสูงยิ่งว่า รัฐบาลไทยจะการดำเนินการกับปัญหานี้ อย่างเหมาะสมต่อไป "




จริงหรือ! ศาลปกครองไม่รับฟ้อง ทุกอย่างจะปลอดภัย ไม่เกิดหายนะภัยกับผู้คนประชาชน - นำเรื่องโรงแยกก๊าซใหม่ ไม่ตอกเสาเข็ม - เสี่ยงทรุดพัง ระเบิดลุกลาม เข้าร้องเรียน ประธานกรรมาธิการต่างๆ ของ วุฒิสภา ที่บ้านพิษณุโลก


หนังสือร้องเรียน ถึงคุณอานันท์ ปันยารชุน และประธานกรรมาธิการต่างๆ ของวุฒิสภา


วันที่ 3 มีนาคม 2554 เวลา 10.30 น. ดร.หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุลประธานศาลปกครองสูงสุด ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีศาลปกครอง

การเป็นตุลาการหรือการเป็นเจ้าหน้าที่ศาลจะต้องมีหลัก 4 ประการ คือ


1.ต้องมีความรู้ความสามารถ

2.ต้องซื่อสัตย์สุจริต

3.ต้องมีจุดยืนที่เป็นกลางและยึดหลักความถูกต้อง

4.ต้องมีความกล้าหาญในการพิจารณาคดี เพื่อให้คำตัดสินจะไม่เบี่ยงเบนความเป็นธรรม

คงต้องรอดูผลของการกระทำ


ในหลวง ทรงเน้นย้ำให้ศาลปกครอง ... ทุกคนปฏิบัติตามคำที่ได้ปฏิญาณไว้

http://maptaphut-news.blogspot.com/2010/12/blog-post_29.html


วันนี้ (20 ธ.ค) เวลา 18.03 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด นำตุลาการศาลปกครองสูงสุด และตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ตำแหน่งตุลาการศาลปกครองกลาง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายสุชาติ เวโรจน์ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะศาลปกครอง โดยทรงเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามคำที่ได้ปฏิญาณไว้ ที่จะมีส่วนสำคัญนำพาให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง “... ท่านปฏิญาณว่าจะปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาศาลปกครองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ในความตั้งใจ และขอให้ท่านปฏิบัติตามปฏิญาณ ซึ่งอยู่ที่ท่านปฏิญาณว่าจะทำหน้าที่อย่างดีในฐานะผู้พิพากษา และขอให้ท่านได้ทำตรงตามหน้าที่ผู้พิพากษานั้น และให้มีความเรียบร้อยในการคดีทั้งหลายที่จะมีขึ้นได้ ในอนาคต ขอให้ท่านได้เข้าใจว่า การปฏิญาณนั้น ไม่ใช่ของเล่น เป็นของจริง ถ้าท่านปฏิญาณท่านทำกฎหมาย และท่านจะได้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างดี ขอให้ท่านได้สามารถปฏิบัติตามที่ได้ปฏิญาณอย่างนี้แล้ว ท่านจะมีความเจริญรุ่งเรืองด้วย ถ้าปฏิบัติตามที่ท่านพูด แล้วเป็นการปฏิบัติตามคำปฏิญาณนั้น เป็นเรื่องของความดี และท่านจะสามารถปฏิบัติสำเร็จเรียบร้อย คนเราถ้าปฏิบัติตามที่ตั้งใจก็จะเจริญรุ่งเรือง ถ้าท่านไม่สามารถปฏิบัติตามที่ปฏิญาณไว้ ท่านก็ต้องระวังตัว ฉะนั้น ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่ท่านได้ปฏิญาณ ท่านก็จะได้แสดงว่าท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นของท่าน และความศักดิ์ ท่านได้ปฏิบัติเพื่อช่วยให้ผู้ที่ได้เกี่ยวข้องกับท่าน ให้มีความดี ความศักดิ์สิทธิ์ และทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองได้ ก็ขอให้ท่านปฏิบัติถูกต้องตามคำปฏิญาณและสามารถที่จะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ต้องพูดมากกว่านี้ ขอท่านมีความสำเร็จในหน้าที่ของท่าน ...”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น